อาหารอร่อยมื้อนี้ เราชวนกันไปกินกันที่ ร้านแพท่าจีน เป็นร้านอาหารริมแม่น้ำท่าจีนที่ ตลาดดอนหวาย ตามภาพก็มี ออส่วน ปลาช่อนทอดกรอบ ปลากรา...

ทริปนั่งเรือเที่ยว กิน ที่ตลาดดอนหวาย

20:12:00 Puii Sangsuriyasilp 0 Comments


อาหารอร่อยมื้อนี้ เราชวนกันไปกินกันที่ ร้านแพท่าจีน เป็นร้านอาหารริมแม่น้ำท่าจีนที่ ตลาดดอนหวาย ตามภาพก็มี ออส่วน ปลาช่อนทอดกรอบ ปลากรายผัดพริก และแกงส้มไหลบัว (ไหลบัวคือส่วนที่อยู่เหนือจากรากบัวก่อนถึงสายบัว ) แต่ลืมถ่ายรูป บางทีก็มัวแต่กินเพลิน ก็ลืมภาระกิจ!! พอนึกได้อาหารก็เหลือไม่พอถ่ายรูป ก็หายไปอยู่ในท้องเราและท้องเพื่อนซะครึ่งจานอะไรแบบนั้น ^ ^ 

เมนูที่สั่งมาทั้งหมด ชอบปลาช่อนกรอบ ปลาทอดจนกรอบอร่อยมากๆ ลองกินจิ้มกับน้ำจิ้มซีฟู้ก็เพิ่มรสชาติได้ทันที : )   



ก่อนหน้านั้นสองชั่วโมง ...

ท้องยังหิว พวกเราหอบกันแฮ่กๆกับการเดินซื้ออาหารต่างๆที่ตลาดดอนหวาย เป็นตลาดอาหารที่คงไม่ได้ไปเที่ยวกันได้บ่อยแน่ๆ นึกถึงคนจำนวนมากมหาศาลและที่จอดรถก็ไม่ค่อยจะพอ ดีที่ว่าเราไปกันแต่เช้า พอขากลับหลังเที่ยงออกจากร้านอาหารนี่คือเดินดันๆเบียดๆกันออกไป พอออกไปถึงลานจอดรถ รถก็จอดกันเต็มลาน ท่ามกลางอากาศร้อนจัดในช่วงเดือนนี้ผู้คนมากมายก็ยังมาเที่ยวกัน เป็นเพราะความอร่อยของอาหารหลากหลายมากมายในตลาดนั้นเอง ตัวการที่ทำให้ผู้คนมาเที่ยวตลาดดอนหวายกันแน่นขนาดนี้ (โนแนะนำว่า อย่าลืมซื้อไข่เค็ม กับ หน่อไม้ต้มกลับบ้านด้วย)  และยังมีอีกอย่างที่ใครมาก็น่าจะลองสัมผัสดูคือนั่งเรือชมธรรมชาติสองฝั่งแม่น้ำท่าจีนกัน     

เค้าคิดค่านั่งเรือคนละ 100 บาท บนเรือก็มีโต๊ะ เก้าอี้ให้นั่งเหมือนนั่งในร้านอาหาร เราสามารถสั่งส้มตำ อาหารยำๆ เครื่องดื่มต่างๆ ที่มีขายใกล้ๆกับแพท่าเรือมาทานในเรือได้ขณะล่องเรือไปตามแม่น้ำ ก็สัมผัสลมเย็นๆ เหนื่อยๆจากเดินช้อปที่ตลาดมา พอลงเรือคือหายหมดนะ เป็นช่วงเวลาที่สบายอารมณ์มาก ได้เห็นสีเขียวของต้นไม้ทั้งในแม่น้ำและบนบก กับชมมวลหมู่วิหกนกโพบินโฉบไปมาเป็นระยะๆ ก็เพลิดเพลินดี

ทริปล่องเรือนี้ ก็จะมีคนขับเรือทำหน้าที่ขับเรือและเป็นไกด์ด้วย แต่เขาเรียกตนเองว่า "ผู้บรรยาย" ก็ใช่ล่ะนะ เพราะเขาจะบรรยายเรื่องราวต่างๆสองฝั่งแม่น้ำ (แบบ non stop คือไม่หยุด !!) เรือผ่านวัดก็บรรยายประวัติของวัด วัดนี้ชื่ออะไร มีความเป็นมาอย่างไร อายุกี่ร้อยปี วัดนั้นกี่ร้อยปี แล้วพอผ่านบ้านเรือนผู้คนก็บรรยายได้ขนาดที่ว่า "บ้านหลังนั้นนะครับ เจ้าของมาสร้างอยู่ตอนแรกบอกว่าใหญ่ไป พอมีลูกก็ว่าบ้านชักจะเล็กไปล่ะ หลังนี้ทางซ้ายมือของเราคือบ้านที่เจ้าของใจดี พอเรือเราผ่านก็จะเปิดน้ำตกหน้าบ้านต้อนรับพวกเรา เห็นมั้ยครับ นั่นไง นั่นไง"


ผู้บรรยายเก่งมากนะ  รอบรู้หมดทุกเรื่องสองฝั่งน้ำ ไม่เว้นว่า "บ้านหลังนี้ 7 ไร่ครับ เจ้าของขาย 37 ล้านบาท " นั่นล่ะ เราจะได้ยินเสียงผู้บรรยายตลอดทางขาไป เราแอบนินว่า ถ้าไม่ได้ขับเรือเค้าคงต้องเป็นซีเอนเอนประจำหมู่บ้านแน่ๆ ! 



ระหว่างล่องเรือไปเรื่อยๆ เราก็ได้เห็นร้านกาแฟลอยน้ำชื่อ Riva Floating Cafe ด้วย ร้านสวยน่านั่งมากเลยนะ พอเรือผ่านคนที่อยู่ในร้านก็โบกมือยิ้มให้ คนบนเรือก็ยิ้มแล้วก็โบกมือตอบกันไปมา ไม่มีใครรู้จักกันซักคนแต่ก็ทักกันยิ้มให้กันได้ นี่คือถ้าไม่มัวก้มหน้าเล่นโทรศัพท์อยู่ก็จะได้เห็นสิ่งรอบตัวที่ดูมีชีวิตชีวาจริงๆนั้นเอง : )

สองฝั่งแม่น้ำท่าจีนยังคงมีวิถีดั้งเดิม บ้านเรือนผู้คนส่วนมากก็เป็นบ้านไม้เดิมๆ มีท่าเทียบเรือพาย  แต่หลายหลังก็เห็นมีเรือยนต์ อู่เก็บเรือ เก็บสกู๊ตเตอร์ ด้วยและบ้านตามสมัยนิยมสร้างด้วยอิฐด้วยปูนก็เกิดขึ้นเป็นธรรมดา ทริปนั่งเรือจะได้แวะเที่ยววัด ไหว้พระ ทำบุญ และได้ชิมน้ำมะพร้าวสามพรานแบบดั้งเดิมซึ่งหอมอร่อยมาก ตอนแรกที่เพื่อนชวนให้ลงเรือเที่ยวกัน ก็เฉยๆ ลงก็ได้ไม่ลงก็ได้ เอียงไปทางขี้เกียจลงด้วยนะ สารภาพ 55+ แต่พอนั่งเรือเที่ยวกลับมาแล้ว ก็ชอบ ก็ต้องบอกว่าใครชอบโมเม้นท์เพลินๆ กินลม ชมวิว ก็ใช่เลยล่ะ ... จบ : )